ตอนนี้น้ำประปาในบางพื้นที่มีรสเค็ม เนื่องจากน้ำทะเลหนุน หากต้องการซื้อเครื่องกรองน้ำจะต้องคำนึงถึงเครื่องกรองที่สามารถกรองน้ำกร่อยได้
ดูเครื่องกรองน้ำกร่อยรหัสอ้างอิง X1234
ไม่ได้รับรหัส? ส่งรหัสอีกครั้ง ในอีก 59 วินาที
รหัสอ้างอิง X1234
ไม่ได้รับรหัส? ส่งรหัสอีกครั้ง ในอีก 59 วินาที




ระบบการกรอง RO มีไว้เพื่อใช้คัดแยกสารละลายที่สะสมอยู่ในน้ำปริมาณสูงๆ ให้ลดน้อยลง ซึ่งมักใช้งานในพื้นที่ใช้น้ำจากแหล่งบาดาล พื้นที่ติดกับชายทะเล หรือพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำกร่อย เพื่อเป็นการคัดแยกสารละลายให้มีปริมาณที่เหมาะสมแก่การดื่ม ซึ่งการกรองในระบบอื่นไม่สามารถทำได้
ก่อนจะเลือกเครื่องกรองน้ำ ต้องทราบลักษณะของน้ำที่จะผ่านเครื่องกรอง เช่น น้ำบาดาล หรือ น้ำประปา เพื่อเลือกไส้กรองที่เหมาะสมกับลักษณะของน้ำ นอกจากนี้ต้องทราบจำนวนสมาชิกภายในบ้าน เพื่อเลือกกำลังผลิตน้ำได้เพียงพอต่อวัน เครื่องกรองน้ำในครัวเรือนแบ่งคร่าวๆ ได้ 2 ประเภท คือ เครื่องกรองน้ำใช้ และเครื่องกรองน้ำดื่ม • เครื่องกรองน้ำใช้ เป็นเครื่องกรองน้ำประปา หรือ กรองน้ำบาดาลก่อนเข้าสู่ระบบท่อน้ำดีในบ้าน เพื่อคัดกรองแร่ธาตุ และสิ่งสกปรก ที่อาจเข้าสู่ระบบน้ำดีภายในบ้าน ทำให้ท่ออุดตัน และขึ้นสนิม มักใช้คู่กับปั๊มน้ำและถังเก็บน้ำดี • เครื่องกรองน้ำดื่ม เป็นเครื่องกรองน้ำคุณภาพสูงขึ้น ด้วยไส้กรองหลายชั้น คัดกรองอนุภาคและสิ่งสกปรก บางรุ่นมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ใช้ต่อกับน้ำประปาเพื่อกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน
1. รู้ส่วนประกอบของน้ำที่ใช้ในครัวเรือน ก่อนอื่นต้องทราบองค์ประกอบของน้ำที่ใช้ในบ้านของเรา หากเป็นน้ำประปาก็เป็นน้ำที่ทำให้สะอาดมาในระดับหนึ่งแล้ว แต่หากเป็นน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำบาดาล ก็จะมีแร่ธาตุที่ต้องกรองออกเยอะกว่าน้ำประปา เช่น ธาตุไนเตรต, ฟลูออไรด์ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงต้องใช้เครื่องกรองที่ฆ่าเชื้อโรคจุลินทรีย์ต่างๆ ได้ 2. รู้วัตถุประสงค์ของน้ำที่จะใช้ หากต้องการน้ำสะอาดไว้ดื่ม จำเป็นต้องเลือกเครื่องกรองน้ำคุณภาพสูง แต่หากต้องการน้ำสำหรับอาบ หรือบริโภคอื่นๆ ก็ใช้เครื่องกรองน้ำธรรมดาทั่วไป ที่ราคาไม่สูงมากนัก เพื่อกรองตะกอน และกลิ่นก็เพียงพอ 3. รู้ไส้กรองของเครื่องกรองน้ำที่เลือก ผู้บริโภคควรสอบถามถึงไส้กรองที่ใช้ในเครื่องกรองน้ำรุ่นต่างๆ จะได้ทราบคุณสมบัติการกรอง และการฆ่าเชื้อโรค เพื่อตรงกับวัตถุประสงค์ที่เลือกใช้ เช่น หากต้องการน้ำบริสุทธิ์สำหรับดื่มโดยไม่ต้องนำมาต้มอีก ก็ควรเป็นเครื่องกรองน้ำที่ฆ่าเชื้อโรคได้ในตัว 4. เปรียบเทียบราคาเครื่องกรองน้ำยี่ห้อต่างๆ ในคุณสมบัติเดียวกัน ราคาของเครื่องกรองน้ำควรจะไม่ต่างกันมาก บางยี่ห้อเพิ่มประกันหลังการขาย พร้อมบริการเปลี่ยนไส้กรองตามอายุการใช้งาน ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคที่ต้องการบริการหลังการขาย 5. เลือกเครื่องกรองน้ำที่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม อย่าดูที่ยี่ห้อ และราคาเพียงอย่างเดียว ต้องดูสัญลักษณ์มาตรฐานที่ได้รับการรองรับจากกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อยืนยันความปลอดภัยเบื้องต้น
น้ำ ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่มนุษย์อย่างเราๆ จำเป็นในการดำรงชีวิต เราจึงควรเลือกเลือกดื่มน้ำที่สะอาดและปลอดภัย เครื่องกรองน้ำจึงถูกผลิตมาเพื่อเป็นอุปกรณ์ช่วยในการขจัดสารปนเปื้อนที่มากับน้ำดื่มและการติดตั้งเครื่องกรองน้ำสำหรับใช้ในบ้านจึงเป็นวิธีที่ดีและง่ายที่สุดในการกรองน้ำสะอาด ดังนั้น การเลือกเครื่องกรองน้ำสำหรับใช้ภายในบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่เครื่องกรองน้ำที่เลือกควรได้รับการรับรองและผ่านมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ เรามาทำความรู้จักมาตรฐานเครื่องกรองน้ำกันก่อนดีกว่า ว่ามีหลักเกณฑ์การประเมินอย่างไรบ้าง มาตรฐาน NSF/ANSI คือ การควบคุมโดยองค์กรส่งเสริมอนามัยแห่งชาติระหว่างประเทศมีหลักเกณฑ์ในการประเมินประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำที่ถูกต้อง และได้รับการยอมรับในหลายประเทศ เครื่องกรองน้ำที่ผ่านการตรวจสอบโดย NSF International คือ ผลกระทบด้านกายภาพ : ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำในการลดปริมาณสิ่งปนเปื้อนใน น้ำดื่มที่มีผลกระทบต่อรสชาติ กลิ่น และความใสของน้ำดื่ม ผลกระทบด้านสุขภาพ : ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำในการลดปริมาณสิ่งปนเปื้อนใน น้ำดื่มที่มีอยู่มากมายหลายชนิดรวมถึงสารตะกั่ว แร่ใยหิน สารประกอบอินทรีย์ที่ระเหยได้ และสารกำจัดศัตรูพืช การบำบัดน้ำทางจุลชีววิทยาด้วยแสงอุลตร้าไวโอเล็ท : ทดสอบกับเครื่องกรองน้ำที่ใช้ แสงอุลตร้าไวโอเล็ทในการกำจัดเชื้อโรคในน้ำดื่ม
ไส้คาร์บอนมีประสิทธิภาพในการดูดซับ กลิ่น และสารเคมีได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าน้ำที่ผ่านเครื่องกรองออกมาแล้วมีกลิ่นแสดงว่าไส้กรองเสื่อมประสิทธิภาพจากการใช้งานมานานหรือมีการแตกร้าวด้านในของไส้กรองทำให้น้ำที่ไม่ผ่านการดูดซับปะปนออกมา หรือในน้ำมีคลอรีนมาก จึงทำให้ไส้กรองมีอายุสั้น แนะนำติดตั้งกรองคาร์บอนเพิ่มหรือเปลี่ยนกรองคาร์บอนเมื่อมีกลิ่น หรือใช้เครื่องกรองระบบ RO แทน อย่างไรก็ตามน้ำประปา จะมีคลอรีนมาด้วยเพื่อฆ่าเชื้อโรค หรืออาจมีสนิมจากท่อประปาก็ได้ บางฤดูอาจมีรสชาดเค็ม และบางครั้งอาจจมีสิ่งแปลกปลอมจากท่อประปาแตกหรือมีการซ่อมของท่อประปา
เมื่อไม่ได้ใช้น้ำก็จะมีน้ำค้างอยู่ในกระบอก เมื่อไม่มีน้ำเข้ามาแทนที่เป็นเวลานานก็อาจทำให้เกิดกลิ่นซึ่งเป็นเรื่องปกติได้ดังนั้นก่อนการรองน้ำให้เปิดน้ำทิ้งก่อน ประมาณ 1 - 2 นาที กลิ่นก็จะหายไป ถ้าไม่หายอาจเป็นเพราะไส้กรองอาจหมดอายุหรือเสื่อมประสิทธิภาพ จึงควรเปลี่ยนไส้กรอง
เมื่อใช้งานไส้กรองน้ำไปสักระยะหนึ่ง ไส้กรองก็ต้องเกิดการอุดตันเป็นเรื่องปกติ ทำให้น้ำไหลช้าลงได้ แต่ทั้งนี้ต้องมีการตรวจสอบอายุการใช้งานไส้กรอง การหักพับของสายน้ำ หรือแรงดันน้ำประปาว่า ปกติหรือไม่ เพราะบางครั้งที่น้ำไหลเบาก็ไม่ได้เกิดจากการอุดตันของไส้กรองอย่างเดียว
การกรองน้ำระบบ RO (Reverse Osmosis) นั้นเป็นระบบการกรองที่แยกโมเลกุลน้ำสะอาดออกจากสารประกอบอื่นๆ ด้วยไส้กรองที่มีความละเอียดของรูพรุนสูงสุด 0.0001 ไมครอน การคัดแยกนี้จะมีการซึมผ่านเยื่อเมมเบรนได้เฉพาะน้ำบริสุทธิ์เท่านั้น ส่วนน้ำที่มีการปะปนของสารประกอบอื่นๆจะถูกแยกออกมาเป็นน้ำทิ้ง ซึ่งโดยทั่วไปจะได้น้ำสะอาดประมาณ 40 % และน้ำทิ้ง 60 %
แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองน้ำทุกปี เพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้ได้มาตราฐาน
- ไส้กรอง PP ให้ทำความสะอาดด้วยการถอดออกมาแล้วใช้น้ำฉีดทำความสะอาดผิวภายนอกให้สะอาดได้ ห้ามใช้แปรงหรือของแข็ง ถูบริเวณตัวไส้กรอง เพราะจะทำให้ไส้หลุดร่อน ฉีกขาดได้ - ไส้กรอง คาร์บอนบล็อก 0.5 และ 0.3 ไมครอน ให้ถอดออกมาใช้น้ำฉีดทำความสะอาด และใช้แปรงนิ่มขนอ่อน เช่น แปรงสีฟัน ขัดบริเวณที่สกปรกให้สะอาด แล้วประกอบเข้าที่เดิม - ไส้กรองเรซิ่น ทำความสะอาดด้วยการเตรียมน้ำเกลือ 10 % ( เกลือ 100 กรัม/น้ำ 1 ลิตร ) แล้วนำไส้กรองลงไปแช่ให้ท่วมไส้กรอง เขย่าให้เม็ดเรซิ่นด้านในให้เกิดการเสียดสีกัน เพื่อให้เกิดการคายประจุออกมาเป็นการฟื้นฟูประสิทธิภาพการกรอง ใช้เวลาประมาณ 25 – 30 นาที แล้วล้างน้ำเปล่าให้หมดความเค็ม เสร็จแล้วให้ประกอบเข้าที่ โดยตรวจดูการใส่ไส้กรองให้ถูกต้องด้วย
โดยปกติแล้วบริษัทจะมีระบบการแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดเวลา โดยเปลี่ยนตามอายุของแต่ละไส้กรองเป็นหลัก แต่ในการใช้งานนั้นสามารถสังเกตได้จากความผิดปกติในการใช้งานได้ เช่น น้ำที่กรองออกมามีกลิ่นผิดปกติ มีกลิ่นเหมือนสารเคมีปนมากับในน้ำ หรืออัตราการไหลของน้ำที่ช้าลง ก็น่าจะถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรองได้แล้ว
โดยปกติแล้วบริษัทจะมีระบบการแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดเวลา โดยเปลี่ยนตามอายุของแต่ละไส้กรองเป็นหลักแต่ในการใช้งานนั้นสามารถสังเกตได้จากความผิดปกติในการใช้งานได้ เช่น น้ำที่กรองออกมามีกลิ่นผิดปกติมีกลิ่นเหมือนสารเคมีปนมากับในน้ำ หรืออัตราการไหลของน้ำที่ช้าลง ก็น่าจะถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรองได้แล้ว